แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บุญ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บุญ แสดงบทความทั้งหมด

๔. บุญบาปเกิดขึ้นได้อย่างไร

ธรรมะสำหรับผู้เริ่มต้น | อภิธรรมศึกษาเพื่อความเข้าใจพระไตรปิฎกอย่างลึกซึ้ง
ตามธรรมชาติของ จิต เมื่อมีอารมณ์มาปรากฏทาง ทวาร ใด จิตหรือวิญญาณ จะเกิดขึ้นเพื่อรับอารมณ์ทางทวารนั้น เช่น เมื่อมีเสียงมาปรากฏทางหู โสตวิญญาณวิถี จะเกิดขึ้นเพื่อรับรู้เสียงนั้น โสตวิญญาณจะเกิดดับเร็วมากเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน สลับกับ มโนวิญญาณวิถี ที่เกิดขึ้นทางใจ เพื่อตีความหมายของเสียงที่กำลังปรากฏอยู่

เมื่อรู้ความหมายว่าเป็นเสียงชมเชยก็จะมีความยินดีพอใจ แต่หากเป็นเสียงด่าก็จะเกิดโทสะ ถ้ามีสติยับยั้งไว้ได้ก็ดีไป แต่เมื่อใดที่ขาดสติก็จะเกิดการตอบโต้ทางกาย (กายกรรม) เช่น ไปชกหน้าผู้ที่กำลังด่าเรา หรือทางวาจา (วจีกรรม) เช่น ด่าตอบไปทันที ซึ่งเป็นการสร้างกรรมใหม่ที่จะต้องได้รับผลของกรรม (วิบาก) ในอนาคตต่อไป

ใจจะเป็นผู้สั่งให้เกิดการกระทำทางกายและทางวาจา ทั้งที่เป็นบุญ (กุศลกรรม) และที่เป็นบาป (อกุศลกรรม) บางครั้งก็เพียงแต่คิดไว้ในใจ (มโนกรรม) โดยที่ไม่ได้แสดงออกทางกาย หรือ ทางวาจาเลยก็มี

การแสดงออกทางกายและทางวาจาที่เป็นบุญ เรียกว่า กายสุจริต, วจีสุจริต ส่วนการแสดงออกทางกายและทางวาจาที่เป็นบาป เรียกว่า กายทุจริต, วจีทุจริต

กรรมที่ทำด้วยเจตนาดี มีจิตสะอาดผ่องใส ผลลัพธ์จะออกมาเป็นความสุข ท่านเรียกว่า บุญ ส่วนกรรม ที่ทำด้วยเจตนาไม่ดี มีจิตเศร้าหมองและจะส่งผลออกมาเป็นความทุกข์ ท่านเรียกว่า บาป
ภาพบุญบาป
กรรมที่กระทำไว้แล้ว ไม่ว่าดีหรือชั่วย่อมไม่สูญหายไปไหน เพราะกรรมสามารถติดตามไปให้ผลได้ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ปัญหาที่น่าสงสัยคือ เราสั่งสมกรรมไว้ได้อย่างไร มีใครจดบันทึกบัญชีกรรมของเราไว้ เหมือนบัญชีเงินฝากในธนาคารหรือไม่ คำตอบก็คือ บุญบาป ที่เราทำไว้ไม่ต้องมีใครมาติดตามจดบันทึกไว้ เพราะ จิต มีอานาจวิเศษอย่างหนึ่งในการสั่งสมบุญและบาป

เมื่อเราได้กระทำกรรมใดๆ ลงไปไม่ว่าจะดีหรือชั่ว แม้จะนานสักเพียงใดก็ตามจะกี่ภพกี่ชาติก็ตาม ผู้กระทำย่อมจะต้องได้รับผล (หรือเรียกว่าได้รับวิบาก) ของบุญและบาปเมื่อกรรมมีโอกาสส่งผล

ถึงแม้ จิต จะเกิดดับอยู่ตลอดเวลาก็ตาม แต่ผลกรรมที่ได้กระทำไว้ไม่ว่าจะเป็นบุญหรือเป็นบาป ก็จะไม่สูญหายไปพร้อมกับการดับของจิตแต่ละดวง ทั้งนี้เพราะ จิตดวงใหม่ มีเหตุปัจจัยมาจาก จิตดวงเดิม และจิตดวงใหม่ที่เกิดขึ้นมานั้น ก็เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้แก่จิตดวงต่อไปเช่นกัน
การที่จะเกิดมาเป็น มนุษย์ ได้นั้น จะต้องอาศัยผลของ บุญกุศล ในอดีต ครั้นหมดเหตุหมดปัจจัยของบุญกุศลก็ต้อง ตาย ไปจากโลกมนุษย์ เมื่อตายไปแล้วก็ต้องเกิดอีก

การเกิดใหม่ก็ต้องอาศัยเหตุปัจจัยชุดใหม่ทำให้ ชีวิต เกิดขึ้นมาใหม่อีก สุดแล้วแต่เหตุปัจจัยใหม่นี้จะเป็น กุศล หรือ อกุศล ถ้าเป็นกุศลก็จะ ปฏิสนธิ (เกิด) ใน สุคติภูมิ คือเกิดเป็น มนุษย์หรือเทวดา ถ้าเป็นอกุศลก็จะปฏิสนธิใน อบายภูมิ คือ เกิดเป็นสัตวนรก เปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉาน แล้วแต่เวรกรรมของตน

เพราะชีวิตของคนเราและสัตว์ทั้งหลาย ต้องเวียนเกิดเวียนตายตามอำนาจของ กิเลส กรรม และวิบาก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เส้นคั่น
แสงธรรมนำทาง...

สคริปเก่า