บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ ปกิณกะธรรม

ตอบปัญหาปริพาชกอัญญเดียรถีย์ ว่าด้วยเวทนา

รูปภาพ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว 👉 ว่าด้วยกาม  , 👉 ว่าด้วยรูป เมื่อเหล่าภิกษุสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ที่ยังไม่ได้เป็นอริยบุคคล นับตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป ถูกเหล่า เดียรถีย์นักบวชนอกศาสนา ตั้งคำถาม ถามขึ้นมาว่า  "พระสมณโคดมบัญญัติข้อควรกำหนดรู้ในกาม  กำหนดรู้ในรูป  กำหนดรู้ในเวทนา กำหนดรู้พวกนี้สำนักเราก็กำหนดรู้ได้ แล้วมันจะต่างอะไรกันกับสำนักท่าน ที่พระ พระสมณโคดมเป็นผู้กำหนด" เหล่าภิกษุผู้ที่ยังไม่ได้บรรลุเป็นอริยบุคคล ไม่มีใครสามารถตอบคำถามหรือทำลายวาทะจาบจ้วงตีเสมอของพวกปริพาชกอัญญเดียรถีย์ได้สักคน เลยได้แต่นั่งนิ่ง คอตก หลบสายตา รอเวลาออกบิณฑบาตร เมื่อฉันภัตเสร็จกิจเรียบร้อยแล้วเหล่าภิกษุ จึงเข้าไปถามหาคำตอบถึงความแตกต่างในเรื่อง กาม รูป เวทนา จากพระพุทธองค์ 🔅 ว่าด้วยเรื่องของ  เวทนา "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่า เป็น คุณ ของ เวทนา ทั้งหลาย? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติ และสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ ในสมัยใด ภิกษุสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน  มีวิตกวิจาร มีปีติและสุข เกิดแต่วิเวกอยู่ ในสมัยน...

ตอบปัญหาปริพาชกอัญญเดียรถีย์ ว่าด้วยรูป

 ความเดิมจากตอนที่แล้ว 👉 ว่าด้วยกาม เมื่อเหล่าภิกษุสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ที่ยังไม่ได้เป็นอริยบุคคล นับตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป ถูกเหล่า เดียรถีย์นักบวชนอกศาสนา ตั้งคำถาม ถามขึ้นมาว่า  "พระสมณโคดมบัญญัติข้อควรกำหนดรู้ในกาม  กำหนดรู้ในรูป  กำหนดรู้ในเวทนา กำหนดรู้พวกนี้สำนักเราก็กำหนดรู้ได้ แล้วมันจะต่างอะไรกันกับสำนักท่าน ที่พระ พระสมณโคดมเป็นผู้กำหนด" เหล่าภิกษุผู้ที่ยังไม่ได้บรรลุเป็นอริยบุคคล ไม่มีใครสามารถตอบคำถามหรือทำลายวาทะจาบจ้วงตีเสมอของพวกปริพาชกอัญญเดียรถีย์ได้สักคน เลยได้แต่นั่งนิ่ง คอตก หลบสายตา รอเวลาออกบิณฑบาตร เมื่อฉันภัตเสร็จกิจเรียบร้อยแล้วเหล่าภิกษุ จึงเข้าไปถามหาคำตอบถึงความแตกต่างในเรื่อง กาม รูป เวทนา จากพระพุทธองค์ 🔅 ว่าด้วยเรื่องของ  รูป "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่า เป็น คุณ ของ รูป ทั้งหลาย ? ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า นางสาวเผ่ากษัตริย์ เผ่าพราหมณ์ หรือเผ่าคฤหบดีมีอายุระบุได้ว่า ๑๕ ปี หรือ  ๑๖ ปี ไม่สูงเกินไป ไม่ต่ำเกินไป ไม่ผอมเกินไป ไม่อ้วนเกินไป ไม่ดำเกินไป ไม่ขาวเกินไป  ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในสมัยนั้นนางคนนั้น งดงามเปล่งปล...

ตอบปัญหาปริพาชกอัญญเดียรถีย์ ว่าด้วยกาม

รูปภาพ
"เครื่องจองจำใด เกิดแต่เหล็ก เกิดแต่ไม้ และ เกิดแต่หญ้าปล้อง ผู้มีปัญญาทั้งหลาย หากล่าวเครื่องจองจำนั้น ว่าเป็นของมั่นคงไม่  ความกำหนัด ใดของชนทั้งหลายผู้กำหนัด ยินดียิ่งนัก ในแก้วมณีและตุ้มหูทั้งหลาย และ ความเยื่อใย ในบุตรแลในภรรยาทั้งหลายใด นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวความกำหนัดและความเยื่อใยนั่นว่า เป็นเครื่องจองจำอันมั่นคง มีปกติเหนี่ยวลง อันหย่อนเปลื้องได้โดยยาก นักปราชญ์ทั้งหลายตัดเครื่องผูก แม้นั่นแล้ว  เป็นผู้ไม่มีไยดี ละ กามสุข แล้วบวช "                      🔅 ว่าด้วยเรื่องของ กาม เกริ่นนำ  แม้เทวดาก็ยังลุ่มหลงในกาม เมื่อจุติจากภพสวรรค์นั้นแล้วโดยเกือบทั้งหมดจะไปเกิดต่อในอบายภูมิ มีนรก เปรต อสุรกาย และเดรัจฉาน (อามกธัญญเปยยาล) มีเทวดาเพียงจำนวนน้อยนิดเทียบเท่าฝุ่นในปลายเล็บจากเทวดาทั้งหมดที่มีจำนวนเทียบเท่าผืนปฐพีที่จะได้กลับมาเกิดในสุขคติภูมิคือ มนุษย์ เทวดา พรหม อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นท่านสาธุชนไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมจึงมีเทวดาที่ยังมีมิจฉาทิฎฐิอยู่           ในสมัยหนึ่งเมื่อพระพุท...

อธิบาย เนื้อความพาหุงมหากา ๓

รูปภาพ
  👉   กลับไปหน้าแรก 🔅  พระธรรมานุภาพที่ ๖  สัจจกนิครนถ์ เรื่องมีอยู่ว่า สัจจกนิครนถ์ผู้นี้ได้เล่าเรียนปริศนาต่างๆในสำนักของบิดามารดาถึง ๕๐๐ ข้อ แล้วก็ออกเที่ยวสั่งสนทนากับผู้ใดก็ไม่มีใครที่จะตอบต้านทานวาทะปฏิภาณโวหารของสัจจกนิครนถ์ได้ กิตติศัพท์นี้ก็เล่าลือไปในทิศานุทิศ มหาชนนับถือพากันมาเป็นศิษย์มากมาย (ในสมัยนั้น เค้าว่ากันด้วยวาทะด้วยเหตุด้วยผล ใครมีวาทะที่ไม่มีใครแก้ต่างได้เขาก็ถือว่าชนะ เป็นปราชญ์ เป็นผู้มีปัญญามาก) ฝ่ายสัจจกนิครนถ์นั้นก็สำคัญใจเป็นแน่ว่า ตนนั้นเป็นผู้มีปัญญาวิชาความรู้เลอเลิศกว่าคนทั้งหลาย และภายในท้องของตนนั้น เต็มไปด้วยปัญญาวิชาความรู้ทั้งนั้น คิดกลัวว่าสักวันหนึ่งท้องของตนจะต้องแตกจะทลายไปเพราะความรู้แน่นเหลือเกินจึงทำโครงเหล็กรัดท้องเอาไว้ วันหนึ่ง สัจจกนิครนถ์ได้ยินคำสรรเสริญว่าพระพุทธเจ้าเป็น เอกอัครบุคคลในโลก ทรงพระปัญญารู้เหตุในอดีต อนาคต ปัจจุบัน ไม่มีผู้ที่จะเทียบเคียงให้เป็นสองได้ บัดนี้พระพุทธเจ้าเสด็จประทับอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง ใกล้เมืองไพศาลีพร้อมด้วยพระสงฆ์สาวกเป็น อันมาก เมื่อสัจจกนิครนถ์ทราบความดังนั้น ก็พองขนด้วยคว...

อธิบาย เนื้อความพาหุงมหากา ๒

รูปภาพ
  👉   กลับไปก่อนหน้า   🔅  พระธรรมานุภาพที่ ๓  เรื่อง ช้างนาฬาคิรี เรื่องนี้มีว่า ช้าง นาฬาคิรี จะแทงพระพุทธเจ้าเวลาเสด็จออกบิณฑบาต เหตุเกิดขึ้นเพราะพระเทวทัต คือพระเทวทัตคิดจะปลงพระชนม์ชีพพระสุคตเสีย แล้วจะตั้งตัวขึ้นเป็นพระพุทธเจ้าเอง จึงเข้าไปเฝ้าพระเจ้าอชาตศัตรู ปรึกษาความลับตกลงกันแล้วไปที่โรงช้าง ส่งควาญช้างให้มอมสุราพญาช้าง นาฬาคิรี  ซึ่งปรกติเคยกินเหล้าแค่ ๘ กระออม ให้ทวีขึ้นถึง ๑๖ กระออม จนเมามันอาละวาดร้ายแรงกล้า ครั้นเวลาเช้าพระผู้มีพระภาคเสด็จจากเวฬุวนารามมารับบิณฑบาตในเมืองราชคฤห์พร้อมด้วยภิกษุพุทธบริวารเป็นอันมาก นายควาญช้างก็ปล่อยพญานาฬาคิรี ให้วิ่งสวนทางตรงมาหาพระพุทธองค์ ช้างเมาสุราอาละวาดวิ่งไล่แทงคนอลหม่าน เห็นกลุ่มสมณะนำโดยพระพุทธเจ้าก็ยกชูงวงปรบหูตีหาวิ่งตรงมาจะแทงพระพุทธองค์ ทันใดนั้นพระอานนท์เถระก็ออกมายืนอยู่ข้างหน้าพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงห้ามถึงสามครั้ง แล้วแต่พระอานนท์ก็ไม่ยอมหนีให้พ้นทาง พระพุทธองค์จึงบันดาลให้พระอานนท์กลับเข้าไปปะปนอยู่ในหมู่สงฆ์ เวลานั้นก็ยังมีหญิงแม่ลูกอ่อนนางหนึ่ง กำลังตกใจสุดขีดเลยอุ้มบุตรตัวเองหนีช้างตรงมาที...