วันอาทิตย์

อ. เสถียร โพธินันทะ #๑

อาจารย์เสถียร โพธินันทะ
ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาคนหนึ่งของไทย ผู้บุกเบิกการศึกษาพระพุทธศาสนามหายาน และอดีตเลขาธิการคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย

๑. ประวัติมนุษยชาติและศาสนา
๒. ศาสนาของชนชาติอริยกะโบราณ
๓. การตั้งถิ่นฐานและศาสนาของชาวอารยัน
๔. เหตุการณ์สมัยพุทธกาล
๕. ปฐมสังคายนา
๖. ทุติยสังคายนา
๗. การรุกรานของพวกกรีกและพระเจ้าอโศก
๘. ความรุ่งเรืองของพุทธศาสนา
๙. การแผ่ขยายของพุทธศาสนา
๑๐. การเสื่อมสลายของพุทธศาสนา
๑๑. พระพุทธศาสนาลังกาวงศ์
๑๒. พทธศาสนาในเอเซียบรูพา ๑
๑๓. พทธศาสนาในเอเซียบรูพา ๒
๑๔. พุทธศาสนาในจีน ๑
๑๕. พุทธศาสนาในจีน ๒
๑๖. พุทธศาสนาในธิเบต
๑๗. พุทธศาสนาในญี่ปุ่น
๑๘. พุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ
๑๙. พุทธศาสนาในประเทศไทย
๒๐. สุนทรียภาพในพระพุทธศาสนา
๒๑. พุทธวิธีในการปฏิรูป
๒๒. ประวัติ อ.เสถียร โพธินันทะ
๒๓. ปฏิจจสมุปบาท ๑
๒๔. ปฏิจจสมุปบาท ๒
๒๕. ปฏิจจสมุปบาท ๓
๒๖. ปฏิจจสมุปบาท ๔
๒๗. คัมภีร์กถาวัตถุ ๑
๒๘. คัมภีร์กถาวัตถุ ๒
๒๙. ขันทวาที
๓๐. ปกติวาทีสมวายวาที




3 ความคิดเห็น:

  1. ผู้ไม่มีร่องรอย#ความบริสุทธิ์หลุดพ้น#คําสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย#คำสอนเรื่องความหลุดพ้น

    ตอบลบ

  2. #เป็นพระโสดาบันคล้ายเด็กหลงทาง #ที่รู้แล้วว่าบ้านอยู่ที่ไหนแต่ยังกลับไม่ถึงบ้าน
    #เรารู้นะว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน #รู้แล้วว่าพ่อแม่เราคือใคร #รู้ว่าพี่น้องเรามี #คือบรรดาพระอริยเจ้าทั้งหลาย #แต่ว่าเรายังกลับไม่ถึงบ้าน #เราก็จะเกิดความพากเพียรนะมุ่งมั่น #ศรัทธาของเราคราวนี้จะแน่นแฟ้นนะ #ไม่คลอนแคลนละเราก็ขยันภาวนาไปเรื่อย
    #บางคนก็ใช้เวลานานหน่อยนะ#อินทรีย์ไม่แก่กล้าใช้เวลา 7 ชาติ 7 ชาติสั้นนิดเดียวนะ #เราเวียนตายเวียนเกิดนับชาติไม่ถ้วน #บางคนก็สองสามชาติ #บางคนก็ชาติเดียว ภาวนาไปเรื่อย เรื่อย #สุดท้ายมันก็ถึงบ้าน#ถึงบ้านแล้วโฮ้ยหาบ้านแทบตาย บ้านอยู่ที่นี่เอง #หาซะรอบจักรวาล #อยู่ที่จิตที่ใจที่บริสุทธิ์ขึ้นมานี่เอง #จะพบพระพุทธเจ้าตัวจริงนะ #เราจะพบว่าพระพุทธเจ้ามีจริงจริง #แต่ว่าไม่ใช่เป็นพุทธเจ้าที่ไปนั่งเข้าแถว #นั่งสมาธิอะไรอย่างนั้นนะ #หรือบางสํานักก็นั่งเก้าอี้ พุทธเจ้านั่ง #บางสำนักก็นั่งสมาธิ #กระดุกกระดิกไม่ได้ด้วย เหมือนรูปปั้น ไม่ใช่หรอก #อะไรที่ยังเป็นรูปเป็นนามอยู่ไม่ใช่นิพพานนะ #เป็นรูปเป็นนามไม่ใช่นิพพาน นิพพานเป็นสภาวะที่สิ้นตัณหา #สิ้นทุกข์สิ้นขันท์ แต่ว่ามีไหมสภาวะนั้น มี#ก็สภาวะที่สิ้นทุกข์สิ้นขันท์สิ้นตัญหา นั้นแหละ นะ #เวลาที่ตายธาตุขันท์นี้แตก #พลังงานที่มีอยู่ทิ้งไว้ในโลกนะ #ส่วนอมตะธาตุ
    #อมตะธรรมรวมเข้ากับพระนิพพานไป #พระนิพพานไม่เพิ่มขึ้นไม่ลดลง เทศเยอะไปละ พวกเรา เริ่ม ตา แป๊ว แป๊ว แล้ว #ยากไป ฟังไว้ก่อนนะ #แล้วก็ขยันภาวนา ทำให้ถูก สิ่งที่ผิดมี 2 อันเองไม่ตึงไป ก็หย่อนไป #ตึงไปก็เพราะโลภ หย่อนไปเพราะขี้เกียจ เพราะหลงโลก #ตึงไปก็เพราะโลภมาก อยากดี #อยากพ้นทุกข์ก็แค่นี้แหละ #ถ้ารู้เท่าทันจิตใจ ตอนนี้ตึงไป รู้ทัน ตอนนี้หย่อนไป รู้ทัน มันก็เข้าทางสายกลาง #เมื่อไหร่ไม่ผิดเมื่อนั้นก็ถูก #ถ้าถูกแล้วมันก็เดินของมันไปเรื่อยๆ นะ แต่ละวัน บางช่วงก็เจริญบางช่วงก็เสื่อม แต่ภาพรวมแล้ว เราจะเติบโตขึ้น #จนกระทั่งวันหนึ่งมันมีกำลัง ข้ามภพไป
    #จิตยอมรับความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเสมอกันหมด#ใจที่ภาวนามาถึงจุดนี้จะรู้สึกโลกนี้ราบเป็นหน้ากลอง #ถัดจากนั้นกระบวนการเกิดอริยมรรคถึงจะเกิดขึ้น#ก็จะมีตั้งแต่#อนุโลมญาณสัจจานุโลมิกญาณ#โคตรภูญาณ#มัคคญาณ#ผลญาณ#ปัจจเวกขณญาณ#ในกระบวนการที่เกิดอริยมรรค#ก็มีตั้งแต่อนุโลมญาณโคตรภูญาณมัคคญาณผลญาณ#อยู่ในกระบวนการที่จะเกิดอริยมรรค#กระบวนการนี้จบแล้วยังจะเกิดญาณตัวที่สิบหก#ปัจจเวกขณญาณทวนเข้าไปพิจารณาว่า#ตอนที่เกิดอริยมรรคนั้นล้างกิเลสอะไรไปบ้าง#กิเลสอะไรยังไม่ล้าง#จะทวนเข้าไปดูก็รู้ว่างานยังไม่เสร็จ#ถ้างานเสร็จแล้วก็ทวนเข้าไปดูเห็นความเสร็จแล้ว#จิตจะไปพิจารณานิพพานได้แล้วไปทำความรู้แจ้งในตัวนิโรธ
    #เวลาที่เราภาวนาพละ๕มันจะรวมกำลังขึ้นมาเป็นหนึ่ง #รวมเข้ามาที่จิตนี่เองเป็นกำลังหนุนกำลังเสริมจนกระทั่งจิตตั้งมั่นเด่นดวงขึ้นมา#เวลาที่อริยมรรคเกิดสมาธิเต็มกำลังเต็มศีลสมาธิปัญญาเต็ม#คุณงามความดีนั้นเต็มในขณะนั้นก็จะเกิดพลังงานที่มหาศาล
    #อาสวกิเลสที่ห่อหุ้มจิตเอาไว้มันจะถูกแหวกออกไปขาดสะบั้นออกไป#โสดาปัตติมรรค #สกิทาคามีมรรค#อนาคามีมรรค#อรหัตตมรรค#ตอนที่เกิดมรรคนี่สิ่งที่ห่อหุ้มตัวผู้รู้อยู่จะแตกออก#จิตที่เป็นอิสระที่เป็นธาตุรู้จะเป็นอิสระขึ้นมาสว่างไสวขึ้นมา#ในพระสูตรบอกว่าอาโลโกอุทะปาทิแสงสว่างเกิดขึ้น#ทีนี้บางท่านบางองค์ในขณะที่เกิดอริยมรรค#มีความสุขเกิดร่วมด้วย#ที่หลวงปู่ดูลย์เรียกว่าจิตยิ้มฉะนั้น#จิตยิ้มนี่เกิดกับบางคนนะบางคนจิตไม่ยิ้ม#จิตแค่อมยิ้มเฉยๆ
    #บางคนจิตยิ้มอย่างแรงเลย#จิตสงบสันติอันนั้นเป็นอุเบกขา#บางท่านบางองค์จิตยิ้มเบิกบานขึ้นมาอันนั้นจิตมีโสมนัส
    #เพราะฉะนั้นตอนที่บรรลุอริยมรรค#มีเวทนา๒ชนิดคือมีโสมนัส#หรือมีความสุขกับมีอุเบกขา#เกิดได้ทั้ง๒แบบเกิดชั่วขณะจิตเดียว #ถัดจากอริยมรรคที่แหวกสิ่งที่ห่อหุ้มจิตอยู่#ขาดสะบั้นลงไปอริยผลจะเกิด

    ตอบลบ