วันศุกร์

ปาฎิเทสนียะ ๔

ปาฎิเทสนียะ ๔ สิกขาบท

๑. สิกขาบทที่หนึ่ง
ความว่า ภิกษุพึงรับของเคี้ยวของฉันด้วยมือตน แต่มือนางภิกษุณีอันมิใช่ญาติอันเข้าไปในละแวกบ้าน นำมาเคี้ยวฉันกลืนให้ล่วงลำคอลงไป ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ ภิกษุนั้นพึงแสดงอาบัติแก่ภิกษุว่า “คารยุหํอาวุโส ธมฺมํ อาปชฺชึ อสปฺปายํ ปาฏิเทสนียํ ตํ ปฏิเทเสมิ” ความว่า “ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้า
ต้องแล้วซึ่งอาบัติธรรม อันพระพุทธเจ้าจึงติเตียนเป็นธรรมไม่ให้มีความสบาย คือจะทำอันตรายแก่สวรรค์และนิพพาน เป็นธรรมชื่อว่า ปาฏิเทสนียะ ควรที่ภิกษุผู้ต้องพึ่งแสดงให้เป็นปกติบริสุทธิ์ด้วยเทศนา ข้าพเจ้าขอแสดงให้เป็นปกติ ซึ่งอาบัติธรรมนั้น”

๒. สิกขาบทที่สอง
ความว่า ภิกษุมากหลายรูปด้วยกัน มีทายกนิมนต์ฉันในตระกูล ถ้าแลมีนางภิกษุณีเข้าไปตักเตือนทายกให้เอาแกงข้าวสุกของฉันไปแถมไปเติมตามภิกษุที่คุ้นเคยกัน ให้ภิกษุทั้งหลายนั้นจึงดุรุกรานขับนางภิกษุณีนั้นเสียว่า “ไม่ใช่กิจของท่าน ท่านจงหลีกถอยไปเสียให้พ้นก่อน กว่าภิกษุทั้งหลายจะฉันอิ่ม” ถ้าไม่มีภิกษุแต่สักรูปหนึ่งอาจดุขับนางภิกษุณีนั้นเสียได้ เพิกเฉยเสียสิ้น ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะสิ้นทุกรูปด้วยกัน ภิกษุหมู่นั้นพึงแสดงอาบัติแก่ภิกษุโดยวิธีดังกล่าวมาแล้ว เปลี่ยนบทกิริยาเป็นพหูพจน์ว่า “อาปซุชิมหา ปฏิเทเสม” เท่านี้

๓. สิกขาบทที่สาม
ความว่า ตระกูลเสกขบุคคลคือ โสดาบันแลสกิทาคามีที่พระสงฆ์สมมติห้ามไว้ ไม่ได้นิมนต์ไว้ก่อน แล้วเข้าไปรับบิณฑบาตไม่ได้ ภิกษุมิได้เจ็บไข้ ตระกูลนั้นก็หาได้นิมนต์ไว้แต่ก่อนไม่ เข้าไปรับของเคี้ยวของฉันด้วยมือตนเองแล้ว ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ
(อธิบายสิกขาบทนี้เพิ่มเติม - ตระกูลผู้เป็นเสกขบุคคลจะเป็นผู้ทำทานโดยไม่สนใจว่าตนเองจะหมดเนื้อหมดตัว พระพุทธองค์ทรงมีเมตตา จึงสั่งห้ามไม่ให้ภิกษุเดินผ่านหน้าบ้านเพื่อรับไทยทาน เว้นแต่จะได้รับกิจนิมนต์ เพื่อที่จะไม่เป็นการรบกวนการใช้ชีวิตในเพศคฤหัสถ์ของตระกูลที่เป็นเสกขบุคคลจนเกินไป)

๔. สิกขาบทที่สี่
ความว่า เสนาสนะมีอยู่ในป่า คือที่ไกลแต่บ้านไปได้ชั่ว ๒๕ เส้น เป็นที่เล่าลือว่า มีความรังเกียจด้วยการจะไปมา มีภัยเฉพาะหน้า คือมีโจรร้ายคอยตีชิงแลเข้าซ่องสุมซุ่มซ่อนอยู่ใกล้อาราม ภิกษุอยู่ในเสนาสนะเห็นปานนั้น ทายกมิได้มาสู่หาบอกเล่า🔎เผดียง(๗๕) ไว้ให้รู้ก่อน ได้นำขาทนียโภชนียะคือของเคี้ยวของฉัน
ยาวกาลิกมาถวายถึงภายในอาราม ภิกษุไม่เป็นไข้รับด้วยมือตนเอง แล้วจึงฉัน ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ

จบปาฏิเทสนียะ ๔ สิกขาบทเท่านี้

🔅 ปาราชิก ๔ 
🔅 สังฆาทิเสส ๑๓ 
🔅 อนิยต ๒ 
🔅 นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐
        (จีวรวรรค ๑๐)
        (โกสิยวรรค ๑๐)
        (ปัตตวรรค ๑๐)
🔅 ปาจิตตีย์ ๙๒
        (มุสาวรรค ๑๐)
        (ภูตคามวรรค ๑๐)
        (ภิกขุโนวาทวรรค ๑๐)
        (โภชนวรรค ๑๐)
        (อเจลกวรรค ๑๐)
        (สุราปานวรรค ๑๐)
        (สัปปาณวรรค ๑๐)
        (สหธัมมิกวรรค ๑๒)
        (ราชวรรค ๑๐)
🔅 ปาฎิเทสนียะ ๔
🔅 เสขิยวัตร ๗๕
        (สารูป ๒๖)
        (โภชนปฎิสังยุตต์ ๓๐)
        (ธัมมเทสนาปฎิสังยุตต์ ๑๖)
        (ปกิณกะ ๓)
🔅 อธิกรณสมถะ ๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น